ความเป็นมา ของ การวัดแสง (ดาราศาสตร์)

ความสว่างเป็นปริมาณพื้นฐานที่สังเกตได้ของเทห์ฟากฟ้าและประวัติศาสตร์การวัดสามารถย้อนไปถึงฮิปปาร์คอสในยุคกรีกโบราณได้[5] ฮิปปาร์คอสได้แบ่งความสว่างของดาวฤกษ์ออกเป็น 6 ระดับ โดยดาวที่สว่างที่สุดที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า คือโชติมาตรที่ 1 และดาวที่มีแสงสลัวคือโชติมาตรที่ 6 ซึ่งเขานำมาใช้ในหนังสือ Almagest ของเขา ต่อมาในศตวรรษที่ 17 เมื่อเริ่มมีการใช้กล้องโทรทรรศน์ในทางดาราศาสตร์ ทำให้สามารถสังเกตการณ์ดาวฤกษ์ที่มีแสงค่อนข้างจางลงมาซึ่งไม่อาจเห็นด้วยตาเปล่าได้ และขยายขั้นออกไปเป็นโชติมาตร 7 และ 8

การวัดแสงในดาราศาสตร์สมัยใหม่เริ่มขึ้นใน ปี 1856 โดยนอร์แมน พ็อกสันได้นำคำจำกัดความเชิงปริมาณของโชติมาตรที่ถูกเสนอขึ้นโดยฮิปปาร์คอสมาใช้[5] เมื่อใช้หลักตามนี้แล้ว ความต่าง 1 โชติมาตรนั้นจะคงที่ตามลำดับความสว่าง โดยความแตกต่าง 5 โชติมาตรหมายถึง 100 เท่าของความแตกต่างของความสว่าง